ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

แดเนียล ไบรอัน

ไบรอัน ลอยด์ แดเนียลสัน (อังกฤษ: Bryan Lloyd Danielson) เกิดวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1981 เป็นนักมวยปล้ำอาชีพที่เกษียณอายุชาวอเมริกัน เป็นที่รู้จักทำงานกับสมาคม ดับเบิลยูดับเบิลยูอี เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อบนสังเวียนมวยปล้ำว่า แดเนียล ไบรอัน (อังกฤษ: Daniel Bryan)

แดเนียลสันเป็นอดีตนักมวยปล้ำของสมาคม ริงออฟออเนอร์ และเป็นอดีตแชมป์โลก ROH 1 สมัย, ในสมาคม WWE เป็นแชมป์โลก 4 สมัย (แชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE 3 สมัย และ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท 1 สมัย) แชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล 1 สมัย, แชมป์ยูเอส 1 สมัย และ แชมป์แทคทีม WWE 1 สมัย, แชมป์ทริปเปิลคราวน์ คนที่ 26 และแชมป์แกรนด์สแลม คนที่ 15 ของ WWE และเป็นเจ้าของกระเป๋า มันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์ เพื่อสัญญาในการชิงแชมป์โลกที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาใด ก็ได้ ประจำปี 2011 และได้รางวัล สแลมมีอะวอร์ด ซูเปอร์สตาร์แห่งปี 2013

แดเนียลสันเริ่มสัมผัสกับมวยปล้ำเป็นครั้งแรกในการแข่งขันมวยปล้ำที่สนามหลังบ้านที่มีชื่อว่า แบ็คยาร์ดแชมเปียนชิปเรสต์ลิง (BCW) โดย แดเนียลสัน ได้ใช้ชื่อว่า "เดอะ แด็กเกอร์" แล้วแดเนียลสันก็ชนะได้ตำแหน่งแชมป์เฮฟวี่เวท หลังจากที่ แดเนียลสันจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมในปี 1999 เขาได้ตัดสินใจที่จะเป็นนักมวยปล้ำอาชีพและมีความพยายามที่จะเริ่มต้นในการฝึกอบรมที่โรงเรียนสอนมวยปล้ำของ ดีน มาเลนโก แต่ฝึกได้ไม่นานนักโรงเรียนก็ต้องปิดตัวลง แต่เขาก็ได้รับการฝึกอบรมแทนจาก ชอว์น ไมเคิลส์ ที่ เท็กซัสเรสต์ลิงอคาเดมี แดเนียลสันเปิดตัวครั้งแรกด้วยการสนับสนุน ชอว์น ไมเคิลส์ ที่ เท็กซัสเรสต์ลิงอคาเดมี (TWA) ในวันที่ 21 มีนาคม 2000 เป็นครั้งแรกที่แดเนียลสันได้แชมป์มวยปล้ำอาชีพของเขา โดยจับคู่กับ สปางกี แล้วเอาชนะแชมป์แทคทีม TWA อย่าง เจโรมี เซจ และ รูเบน ครัซ ไปได้ หลังจากนั้น แดเนียลสันก็เริ่มทีจะทัวร์ปล้ำไปรอบประเทศ แล้วไม่นานนัก แดเนียลสันก็ได้เซ็นสัญญากับสมาคม เวิลด์เรสต์ลิงเฟเดเรชั่น (WWF) หลังจากที่ได้เซ็นสัญญากัน WWF ก็ได้ส่งตัวเขาไปพัฒนาและปรับแต่งทักษะก่อนที่ เมมฟิสแชมเปียนชิปเรสต์ลิง (MCW) ค่ายลูกของ WWF ในตอนนั้น ก่อนทีจะเริ่มเปิดตัวในรายการโทรทัศน์ของ WWF ในตอนนั้นเองที่แดเนียลสัน ได้รับการฝึกฝนจาก วิลเลียม รีกัล แล้ว แดเนียลสันก็ได้ใช้ชื่อที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นคือ "อเมริกัน ดราก้อน"

ในปี 2001 WWF ได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับ MCW และได้ปล่อยตัว แดเนียลสันออกจากสัญญาด้วย ซึ่งตอนนั้นเขาได้คว้าแชมป์ไลท์เฮฟวี่เวท MCW และแชมป์แทคทีม MCW ร่วมกับ สปางกี อยู่ซึ่งหลังจากที่เสียแชมป์ของ MCW แล้ว แดเนียลสันก็ได้กลับไปร่วมงานกับ WWF อีกครั้ง ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (WWE) แล้ว ซึ่งปล้ำในรายการรองอย่าง วีโลซิตี แอนด์ ฮาร์ท ในระยะแรก เป็นการเพิ่มสิทธิภาพของตัวเองจนได้รับอนุญาตให้ขึ้นปล้ำในรายการหลักๆ ได้ซึ่งแดเนียลสันก็เคยขึ้นปล้ำกับ จอห์น ซีนา ด้วยแต่ก็แพ้ไปในที่สุด หลังจากที่หมดสัญญากับ WWE แดเนียลสันได้เริ่มทัวร์ญี่ปุ่นและฝึกฝนศิลปะการป้องกันตัวแบบ Martial-Arts ร่วมกับเพื่อนที่ฝึกจากเท็กซัสเรสต์ลิงอคาเดมี อย่าง แลนซ์ เคด และร่วมปล้ำแทคทีมคู่กันจากนั้น แดเนียลสันก็เริ่มไปปล้ำที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างเต็มตัวที่ นิวเจแปนโปรเรสต์ลิง (NJPW) ใน NJPW เขาเลิกใช้ชื่อ อเมริกัน ดราก้อน แต่สวมหน้ากากที่มี สีแดง, สีขาว และ สีฟ้า ที่ซึ่งระลึกถึงชื่อนั้นแทน ความสำเร็จแรกของแดเนียลสันหลังจากที่ได้รับประสบการณ์ในการปล้ำมากมายใน NJPW ในวันที่ 12 มีนาคม 2004 แดเนียลสัน (ในตอนนั้นใช้ชื่อว่า แซนส์ แมสก์) ก็สามารถเอาชนะ จาโด และ จีโด คว้าแชมป์จูเนียร์เฮฟวี่เวทแทคทีม IWGP คู่กับ เคอร์รี แมน ใน Hyper Battle tour

ในปี 2002 แดเนียลสันได้เริ่มไปปล้ำกับสมาคมใหม่ในตอนนั้นอย่าง ริงออฟออเนอร์ ที่นั้นเขาได้รับการยอมรับว่าเป็น "เทพเจ้าผู้ก่อตั้ง" ของสมาคมเลยก็ว่าได้ โดยแฟนๆ มากมายชื่นชอบในฝีมือของเขาและ แดเนียลสันก็เป็นหนึ่งในนักมวยปล้ำที่ทำให้สมาคมดูมีความโดดเด่นตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสมาคมขึ้นและมีแมตช์ทียอดเยี่ยมของสมาคมคือ แมตช์ 3 เส้า เป็นการเจอกันระหว่าง แดเนียลสัน, โลว์ กิ และ คริสโตเฟอร์ แดเนียล ระหว่างทีแดเนียลสันปล้ำอยู่ที่ ริงออฟออเนอร์ ก็ได้เจอกับนักมวยปล้ำที่ยอดเยี่ยมหลายๆ คนอย่าง ออสติน แอรีส์ ซึ่งแมตช์นั้นก็ทำให้เขามีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น ต่อมา แดเนียลสันก็ได้เจอกับ โฮมิไซด์ ซึ่งการเจอกันของทั้งคู่ก็ปล้ำกันในกติกาต่างๆ มากมาย ซึ่งแมตช์ทีเป็นทีจดจำคือ การปล้ำในกรงเหล็ก ในศึก ROH Final Showdown ซึ่งในตอนนั้น แดเนียลสันได้ถือว่าเป็นนักมวยปล้ำที่ดีที่สุดใน ROH เลยก็ว่าได้ ทางสมาคมจึงเกิดความคิดทีจะจัด ทัวร์นาเมนหาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นในปี 2004

ในปี 2005 ก็มีข่าวออกมาจาก ROH ว่า แดเนียลสันประกาศว่าถ้าเกิดเขาแพ้ให้กับ ออสติน แอรีส์ ในการชิงแชมป์โลก ROH เขาจะออกจากสมาคม ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้แฟนๆ มวยปล้ำต่างตกตะลึ่งกันเป็นอย่างมาก แต่ข่าวนี้ก็ถูกเปิดเผยในภายหลังว่านักมวยปล้ำหลายๆคนผิดหวังมากเพราะว่า แดเนียลสันวางแผนที่จะใช้เวลาบางส่วนออกไปทำอาชีพอื่นแทนการเป็นนักมวยปล้ำ หลังจากที่ แดเนียลสันแพ้ให้กับ ออสติน แอรีส์ แล้วเขาก็ได้ใช้เวลาหลายวันไปที่ยุโรปและญี่ปุ่น เพื่อเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตของตัวเอง เดือนพฤษภาคม 2005 มีข่าวลือว่าทาง โทเทิลนอนสต็อปแอคเชินเรสต์ลิง (TNA) มีความสนใจที่จะเซ็นสัญญากับแดเนียลสัน และยังมีเพิ่มเติมอีกว่าเขาได้กลับไปทดลองงานกับ WWE ด้วย ซึ่งข่าวลือเหล่านั้น ทำให้ แดเนียลสันได้ออกมายุติข่าวด้วยการกลับมาร่วมงานกับ ROH ตามเดิม การที่แดเนียลสันได้กลับมาร่วมงานกับ ROH อีกครั้งนั้นก็ทำให้เขาได้โอกาสในการชิงแชมป์โลก ROH อีกครั้ง โดยเจอกับแชมป์ในขณะนั้นอย่าง เจมส์ กิบสัน และสามรถเอาชนะคว้าแชมป์โลกมาได้ ในศึก Glory by Honor IV ในวันที่ 15 กันยายน 2005 ซึ่งช่วงนั้นเองเขาได้เจอกับสตาร์ดาวรุ่งเก่งๆ จากสมาคมอื่นอีกมากมาย

ในปี 2006 เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระหว่างค่ายชนค่ายโดย คริส ฮีโร ซึ่งในตอนนั้นสังกัดอยู่กับค่าย คอมแบตโซนเรสต์ลิง (CZW) ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องทีดุเดือดจนเป็นทีพูดถึงกันในอินเทอร์เน็ตเลยก็ว่าได้ ซึ่งการเจอกันในครั้งนี้ แดเนียลสันก็ได้สามารถป้องกันแชมป์โลกไว้ได้ แต่เรื่องราวระหว่าง 2 ค่ายไม่ได้จบแค่นั้นเพราะว่ามีการเจอกันแบบแทคทีม 10 คน ในกรงเหล็กทีเรียกว่า Cage of Death ซึ่งก็จะมีนักมวยปล้ำของแต่ล่ะค่ายออกมาทีล่ะคน หลังจากทีเริ่มปล้ำก็จะมีการสุ่มเอาสตาร์ของแต่ล่ะค่ายออกมาอีกทีล่ะคนจนครบ แต่มีสตาร์ของ ROH ไม่ยอมขึ้นปล้ำอยู่คนหนึ่งคือ ซามัว โจ ซึ่งนั้นก็ทำให้ทีมของ ROH เป็นฝ่ายแพ้ ทำให้แดเนียลสันต้องเซ็นสัญญาในการทีจะให้คนของ CZW กลับมาชิงแชมป์โลกได้อีกครั้งในอนาคต นั้นก็เป็นเหตุผลให้ต่อมาแดเนียลสันได้ท้าเจอกับซามัว โจ ซึ่งเป็นการปล้ำที่ยาวนานถึง 60 นาทีเต็ม แต่แดเนียลสันก็สามารถเอาชนะป้องกันแชมป์ไว้ได้ แดเนียลสันได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ของเขา หลังจากที่เจอกับ โคลต์ คาบานา แต่แดเนียลสันก็ฝืนตัวเองขึ้นปล้ำป้องกันแชมป์โลกต่อไป จนมาถึงการปล้ำแมตช์สุดท้ายของเขาในปี 2006 ปิดประวัติศาสตร์การครองแชมป์มายาวนานถึง 15 เดือนของแดเนียลสัน ด้วยการทีเขาแพ้ให้กับ โฮมิไซด์ หลังจากนั้น แดเนียลสันออกจากการปล้ำเอาเวลาไปรักษาไหล่ทีบาดเจ็บของเขา

ในปี 2009 แดเนียลสันได้เซ็นสัญญากับสมาคม WWE โดยเข้าร่วมสมาคมพัฒนาทักษะ ฟลอริดาแชมเปียนชิปเรสต์ลิง (FCW) ต่อมาในปี 2010 ได้เข้าร่วมแข่งขันรายการ ดับเบิลยูดับเบิลยูอีเอ็นเอ็กซ์ที ซีซั่น 1 ใช้ชื่อว่า แดเนียล ไบรอัน โดยมี เดอะ มิซ เป็นผู้ฝึกสอน และผู้ชนะในเอ็นเอ็กซ์ทีซีซั่น 1 คือ เวด บาร์เร็ตต์ ในรอว์ (7 มิถุนายน 2010) ไบรอันได้เปิดตัวพร้อมกับสมาชิกในเอ็นเอ็กซ์ที เวด บาร์เร็ตต์, ดาร์เรน ยัง, เดวิด โอทังก้า, ฮีท สเลเตอร์, จัสติน เกเบรียล, ไมเคิล ทาร์เวอร์ และสกิพ เชฟฟิลด์ โดยตั้งชื่อกลุ่มทีมว่า เดอะเน็กซัส และมาทำลายโชว์ โดยไบรอันได้ใช้เนคไทรัดคอของ จัสติน โรเบิตส์ โฆษกผู้ประกาศของ WWE ทำให้ไบรอันต้องถูกไล่ออก เพราะใช้ความรุนแรงมากเกินไป จึงถูกไล่ออกเพื่อแสดงความสำนึกผิด ในศึก ซัมเมอร์สแลม (2010) ไบรอันได้กลับมาแบบเซอร์ไพรส์เข้าร่วมทีม WWE นำทีมโดย จอห์น ซีนา, เบรต ฮาร์ต, เอดจ์, คริส เจอริโค, จอห์น มอร์ริสัน, อาร์-ทรูธ และ เดอะ เกรท คาลี เจอกับทีมเดอะเน็กซัส ในแมตช์แทคทีม 7 ต่อ 7 แบบคัดออก โดยก่อนถึงซัมเมอร์สแลม กลุ่มเน็กซัสได้ลอบทำร้ายเกรท คาลี จนไม่สามารถร่วมปล้ำได้ ไบรอันจึงเข้ามาร่วมทีมแทน ผลปรากฏว่าทีม WWE เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้สำเร็จ ในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2010) ไบรอันได้คว้าแชมป์ยูเอส เป็นสมัยแรก โดยเอาชนะ เดอะ มิซ และเป็นเข็มขัดเส้นแรกของเขาใน WWE ก่อนจะเสียแชมป์ให้กับ เชมัส ในรอว์ (14 มีนาคม 2011) ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 ไบรอันได้ขอท้าชิงแชมป์ยูเอสกับเชมัส ในแมตช์ลัมเบอร์ แจ็ก โดยมีนักมวยปล้ำอยู่รอบเวที เป็นแมตช์ก่อนรายการ สุดท้ายไม่มีผลการตัดสิน เพราะนักมวยปล้ำที่รอบเวทีขึ้นมาอัดกัน ทีโอดอร์ ลอง ผู้จัดการทั่วไปของสแมคดาวน์ เลยสั่งเป็นแมตช์แบทเทิลรอยัล โดยผู้ชนะคือ เกรท คาลี

ในศึก มันนีอินเดอะแบงก์ (2011) ไบรอันได้คว้ากระเป๋ามันนีย์อินเดอะแบงก์ ในแมตช์มันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์ ของฝั่งสแมคดาวน์ ทำให้ไบรอันได้สิทธิ์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ที่ไหนเมื่อไรเวลาใดก็ได้ เพียง 1 ครั้งเท่านั้น ในสแมคดาวน์ (25 พฤศจิกายน 2011) ไบรอันได้ใช้สิทธิ์กระเป๋าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับมาร์ก เฮนรีทันที สุดท้ายไบรอันกดชนะไปสบายๆ ทำให้ไบรอันคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวท มาครอบครอง แต่ ทีโอดอร์ ลอง ออกมาบอกว่า เฮนรีไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมปล้ำ แมตช์นี้ถือว่าเป็นโมฆะ ทีโอดอร์ ลอง ส่งกระเป๋าคืนให้ไบรอัน และบอกให้ไบรอันเตรียมตัวขึ้นปล้ำกับ โคดี, บาร์เร็ตต์ และออร์ตัน เป็นคู่เอกในแมตช์สี่เส้า หาผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์โลกกับเฮนรี ในสแมคดาวน์สัปดาห์หน้า และไบรอันก็เป็นผู้ชนะได้สิทธิ์เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 กับเฮนรี ในสแมคดาวน์ (29 พฤศจิกายน 2011) ไบรอันได้ชิงแชมป์โลกกับเฮนรีในกรงเหล็ก แต่ก็ไม่สำเร็จ ในศึก ทีแอลซี (2011) ไบรอันได้ใช้สิทธิ์มันนีอินเดอะแบงก์ กับบิ๊กโชว์ และคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เป็นสมัยแรกมาได้สำเร็จ หลังจากที่บิ๊กโชว์คว้าแชมป์ได้จากมาร์ก เฮนรี

ไบรอันได้รับบทเป็นแฟนกับ เอเจ ในสแมคดาวน์ (6 มกราคม 2012) ไบรอันต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวทครั้งแรกกับบิ๊กโชว์ โดยระหว่างแมตช์ ไบรอันพยายามใส่ท่าไม้ตายให้บิ๊กโชว์ตบพื้นยอมแพ้ แต่บิ๊กโชว์ไม่ยอม ไบรอันจึงลงไปยั่วโมโหเฮนรีที่มานั่งเป็นผู้บรรยายรับเชิญอยู่ข้างเวที ทำให้เฮนรีผลักไบรอันล้มลงไป ผลการตัดสินจึงจบลงที่ไบรอันชนะฟาวล์ และกลายเป็นฝ่ายอธรรม ในสแมคดาวน์ (13 มกราคม 2012) ไบรอันต้องป้องกันแชมป์กับบิ๊กโชว์ แบบไม่มีกฎกติกา โดยมีเอเจมายืนอยู่ข้างเวที ปรากฏว่า บิ๊กโชว์ เผลอวิ่งไปชนเอเจล้มลงไป ขณะที่วิ่งไล่ตามไบรอัน ทำให้ไบรอันต้องมาดูอาการ โดยแมตช์จบด้วยการไม่มีคำตัดสิน ในศึก รอยัลรัมเบิล (2012) ไบรอันต้องป้องกันแชมป์กับบิ๊กโชว์ และมาร์ก เฮนรี ในแมตช์การปล้ำ 3 เส้าในกรงเหล็ก สุดท้ายไบรอันก็เป็นฝ่ายป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2012) ไบรอันต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ บิ๊กโชว์, เวด บาร์เร็ตต์, โคดี โรดส์, เดอะ เกรท คาลี และ ซานติโน่ มาเรลล่า แต่ก็ยังรักษาแชมป์เอาไว้ได้ หลังแมตช์ไบรอันได้ถูกลอบทำร้ายโดยเชมัส ผู้ชนะเลิศในรอยัลรัมเบิล ประจำปี 2012 และได้เลือกไบรอัน ที่จะชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 สุดท้ายไบรอันก็เสียแชมป์ให้กับเชมัส ในเวลาเพียง 18 วินาที หลังจากที่ไบรอันเรียกให้เอเจขึ้นมาจูบเพื่อให้กำลังใจ ซึ่งหลังจากที่ไบรอันเสียแชมป์ให้กับเชมัส ในเรสเซิลเมเนีย เพียงแค่ 18 วินาที ทำให้แฟนๆ ต่างพากันตะโกนเรียกชื่อไบรอัน และตะโกนคำว่า Yes! ตลอดทั้งรายการศึกรอว์ และสแมคดาวน์ ไม่เว้นแม้กระทั่งเกมส์บาสเก็ตบอล NBA ที่ทีมไมอามี ฮีท ลงแข่ง แฟนๆ ในสนามก็ตะโกน Yes! ทั้งสนามเช่นกันจนกลายเป็นคำฮิตและได้ทำเป็นลายเสื้อคำว่า Yes! Yes! Yes! และได้เปลี่ยนชื่อท่าไม้ตายจาก LeBell Lock เป็นท่า Yes! Lock ในสแมคดาวน์ (6 เมษายน 2012) ไบรอันออกมาพร้อมกับเอเจ และก็โทษเอเจ และบอกเลิกกับเอเจ ก่อนจะเดินกลับไปหลังเวที

ในรอว์ (30 เมษายน 2012) ไบรอันได้เอาชนะ เจอร์รี ลอว์เลอร์ และได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ ซีเอ็ม พังก์ เจ้าของแชมป์ ในศึก โอเวอร์เดอะลิมิต (2012) สุดท้ายไบรอันก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ ในศึก โนเวย์เอาท์ (2012) ไบรอันได้เจอกับพังก์ และเคน ในแมตช์สามเส้า ชิงแชมป์ WWE แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ ในศึก มันนีย์อินเดอะแบงก์ (2012) ไบรอันได้ชิงแชมป์ WWE กับพังก์ ในแมตช์การปล้ำไม่มีการปรับแพ้ฟาล์ว โดยมีเอเจเป็นกรรมการพิเศษ สุดท้ายไบรอันก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ ในรอว์ (16 กรกฎาคม 2012) ไบรอันได้จับคู่กับเอเจ เจอกับ อีฟ ทอร์เรส กับ เดอะ มิซ สุดท้ายไบรอันกับเอเจก็เป็นฝ่ายเชนะไปได้ หลังแมตช์ไบรอันคุกเข่าขอเอเจแต่งงานและสวมแหวนให้เอเจด้วย คำตอบของเอเจ คือ Yes! แล้วทั้งคู่ก็จูบกันอย่างดูดดื่มจากนั้นก็ทำท่า Yes! Yes! Yes! ไปรอบเวทีทั้งสองคน ในศึก รอว์ ตอนที่ 1,000 (23 กรกฎาคม 2012) ไบรอันกับเอเจ ออกมาทำพิธีแต่งงาน แต่เอเจไม่ยอมตอบรับการแต่งงาน แถมยังบอกว่ามีคนเข้ามาจีบเธออีกคนหนึ่ง วินซ์ แม็กแมน ออกมาแล้วก็ประกาศให้เอเจ เป็นผู้จัดการคนใหม่ของรอว์ เอเจเดินจากไป ปล่อยให้ไบรอันโมโหทำลายข้าวของบนเวที ซีเอ็ม พังก์ออกมายั่วโมโหไบรอัน ตามมาด้วย เดอะ ร็อก ออกมาแจก Rock Bottom ใส่ไบรอัน ในสแมคดาวน์ (3 สิงหาคม 2012) ไบรอันใส่เสื้อลายใหม่คำว่า No! No! No! ให้สัมภาษณ์ที่หลังฉาก โวยวายว่าเขาคือคนเดียวที่มีสิทธิ์ตะโกน Yes! ไม่ใช่คนดูพวกนั้น

ในรอว์ (10 กันยายน 2012) ไบรอันได้จับคู่กับ เคน เจอกับ ไพรม์ไทม์เพลเยอส์ (ไทตัส โอนีล และ ดาร์เรน ยัง) เพื่อหาทีมที่ชนะไปชิงแชมป์แทคทีม WWE กับ โคฟี คิงส์ตัน และ อาร์-ทรูธ ทีมเจ้าของแชมป์ สุดท้ายไบรอัน และเคน เป็นฝ่ายชนะและได้ไปชิงแชมป์แทคทีมในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2012) และทั้งคู่ก็คว้าแชมป์แทคทีม WWE ได้สำเร็จ ในสแมคดาวน์ (21 กันยายน 2012) ระหว่างแมตช์ เคน กับ แดเมียน แซนดาว ไบรอันเอาเข็มขัดแชมป์แทคทีม WWE 2 เส้น แล้วมาร้องโวยวายว่าข้าคือแชมป์แทคทีม ทำให้เคนเสียสมาธิจนแพ้ไป ในคืนเดียวกัน ไบรอันได้เจอกับโคดี โรดส์ ท้ายแมตช์ ไบรอันจับโคดี ใส่ท่า No! Lock ได้แล้ว แต่เคนออกมาจุดไฟที่เสาเวที ทำให้ไบรอันตกใจ แล้วก็โดนจับใส่ท่า Cross Rhodes แพ้ไป ไบรอันเข้าไปโวยวายกับเคนที่หลังฉาก จากนั้นก็เริ่มทะเลาะกันอีก โคดีกับแซนดาวเข้ามาหัวเราะเยาะเย้ยว่าแชมป์แทคทีมคู่นี้มันคือตัวตลกชัดๆ ไบรอันกับเคนเลยท้าเจอกันแบบแทคทีม ในคืนเดียวกัน ไบรอันและเคนได้เจอกับโคดีและแซนดาวเป็นแมตช์ลัมเบอร์แจ็ค ที่มีคู่แทคทีมทุกทีมมายืนล้อมเวที สุดท้ายไบรอันและเคนชนะฟาล์ว เพราะโคดีเห็นท่าจะสู้ไม่ไหวเลยไปเอาเก้าอี้มาฟาดเคน จนถูกปรับแพ้ฟาวล์ ไบรอันเข้ามาช่วยเคนแล้วก็เอาเก้าอี้มากันคนละตัวไล่ตีโคดีกับแซนดาว หลังแมตช์ ไบรอันกับเคนยังไม่หนำใจ เลยลงไปลากพวกแทคทีมทั้งหลายขึ้นมาฟาดอย่างเมามันส์กันถ้วนหน้า ในรอว์ (24 กันยายน 2012) ได้มีการให้แฟนๆ ช่วยกันตั้งชื่อให้กับไบรอันและเคน โดยแฟนๆ ได้ตั้งชื่อทีมให้ว่า ทีมเฮลโน จากนั้น โคดีกับแซนดาวก็เข้ามาลอบทำร้าย ไบรอันและเคน แล้วก็ประกาศว่าพวกเขาคือทีม โรดส์ สคูลาร์ส ในศึก เฮลอินเอเซล (2012) ทีมเฮลโนต้องป้องกันแชมป์แทคทีม WWE กับทีมโรดส์ สคูลาร์ส สุดท้ายทีมเฮลโนถูกปรับแพ้ฟาล์ว แต่ไม่เสียแชมป์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 ทีมเฮลโนต้องป้องกันแชมป์แทคทีม WWE กับ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ และบิ๊ก อี แลงสตัน แต่ก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ต่อมาทีมเฮลโนได้เสียแชมป์แทคทีมให้กับ เซท โรลลินส์ และโรแมน เรนส์ 2 สมาชิกในกลุ่ม เดอะชีลด์ ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013) หลังจากที่ทีมเฮลโน ครองแชมป์มาเป็นเวลา 245 วัน

ในรอว์ (15 กรกฎาคม 2013) จอห์น ซีนาออกมาเพื่อเลือกผู้ท้าชิงแชมป์ WWE โดยมีบรรดาซูเปอร์สตาร์มายืนอยู่ที่ลานเปิดตัว ซีนาเรียกชื่อนักมวยปล้ำทีละคนเพื่อให้แฟนๆ ช่วยกันส่งเสียงสนับสนุนคนที่อยากให้ชิงแชมป์ คนดูตะโกน Yes! Yes! Yes! แดเนียล ไบรอัน!! ซีนาประกาศเลือกไบรอันเป็นผู้ท้าชิงของเขาในศึก ซัมเมอร์สแลม (2013) ไบรอันออกมาตะโกน Yes! Yes! Yes! และคนดูก็ตะโกนตามกันทั้งสนาม ในรอว์ (22 กรกฎาคม 2013) แบรด แมดด็อกซ์ ออกมาประกาศให้มีการเซ็นสัญญาปล้ำระหว่างซีนา กับไบรอัน ซึ่งทั้งสองคนก็เซ็นสัญญา แล้วแมดด็อกซ์ก็เตรียมจัดแมตช์ให้ไบรอันได้พิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะสมจริงหรือไม่ที่ได้ชิงแชมป์ ในคืนเดียวกัน ไบรอันต้องปล้ำแมตช์ Gauntlet Match โดยเจอกับ แจ๊ค สแวกเกอร์, แอนโทนีโอ ซีซาโร และไรแบ็ค ผลปรากฏว่า ไบรอันเอาชนะมาได้ 2 แมตช์แรก แมตช์สุดท้าย ไบรอันชนะฟาว์ลเพราะ ไรแบ็คจับไบรอันไปพาวเวอร์บอมใส่โต๊ะจนพัง หลังแมตช์ ไรแบ็คจะเล่นงานไบรอันต่อ แต่ซีนาออกมาช่วยไล่อัดไรแบ็คหนีไป ซีนาเอาไมค์มาประกาศท้าไรแบ็ค ให้มาเจอกันในแมตช์จับฟาดใส่โต๊ะ ซึ่งไรแบ็คก็ตอบตกลง ที่หลังฉากแมดด็อกซ์คุยกับวินซ์ และตกลงจะจัดแมตช์ซีนาเจอกับไรแบ็ค และแมดด็อกซ์ก็ให้ไบรอัน เจอกับเคน ในรอว์ (29 กรกฎาคม 2013) ไบรอันได้เจอกับเคน สุดท้ายไบรอันเอาชนะไปได้ คืนเดียวกัน ซีนาได้เจอกับไรแบ็ค ในแมตช์การปล้ำจับฟาดใส่โต๊ะ สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายชนะ หลังแมตช์ ไบรอันออกมาคว้าเข็มขัดแชมป์ WWE แล้วเอาขึ้นไปยื่นให้ ซีนาจะรับเข็มขัด แต่ไบรอันดึงกลับ ซีนาเลยแย่งเอามาจนได้ แล้วไบรอันก็ทำท่า Yes! Yes! Yes! ใส่ซีนาเป็นการปิดท้ายรายการ ในซัมเมอร์สแลม ไบรอันได้ชิงแชมป์ WWE กับซีนา โดยมี ทริปเปิล เอช เป็นกรรมการพิเศษ สุดท้ายไบรอันก็เป็นฝ่ายชนะ และได้เป็นแชมป์ WWE สมัยแรก หลังแมตช์ ไบรอันกำลังฉลองแชมป์ แต่ซีนามาขัดจังหวะเหมือนจะหาเรื่อง แต่สุดท้ายก็จับมือแสดงความยินดี ซีนาเดินกลับไปและปล่อยให้ไบรอันฉลองบนเวทีโดยมีการจุดพลุฉลองอย่างยิ่งใหญ่ แต่แล้ว แรนดี ออร์ตัน ก็เดินถือกระเป๋าออกมา ออร์ตันชูกระเป๋าข่มขวัญและเดินกลับไป แต่ทริปเปิล เอชจับไบรอันใส่ Pedigree จนหลับสนิท แล้วออร์ตันก็กลับมาใช้กระเป๋า และจับกดนับ 3 คว้าแชมป์ไปครองโดยทริปเปิล เอช ก็ร่วมฉลองด้วย

ในรอว์ (19 สิงหาคม 2013) มีการเฉลิมฉลองตำแหน่งแชมป์ของออร์ตัน ซึ่งมีนักมวยปล้ำทุกคนของ WWE มายืนที่เวที โดยมีเดอะชีลด์ยืนอยู่ริมเวที วินซ์, สเตฟานี แม็กแมน และทริปเปิล เอช (เป็นการก่อตั้งกลุ่ม ดิออธอริตี) ก็ออกมากันพร้อมหน้า ทริปเปิล เอชประกาศแนะนำตัวออร์ตัน แชมป์ WWE คนใหม่ ออร์ตันออกมาจับมือกับครอบครัวแม็กแมน ออร์ตันบอกว่าปกติเขาไม่ชอบขอบคุณใคร แต่ครั้งนี้เขาต้องบอกว่าเขาต้องขอบคุณทริปเปิล เอชจริงๆ ทริปเปิล เอชบอกว่าเขารู้ว่า แดเนียล ไบรอันยังอยู่ในสนามแห่งนี้ ถ้าหากว่ามีปัญหาอะไรก็จงออกมาเคลียร์กันเดี๋ยวนี้ทริปเปิล เอช ไบรอันออกมาและจะขึ้นเวที แต่เดอะชีลด์มารุมอัดไบรอัน แต่ทริปเปิล เอชสั่งห้ามไว้ ทริปเปิล เอชบอกให้ไบรอัน ขึ้นมาบนเวที ไบรอันขึ้นเวทีไปปุ๊บก็โดน RKO ทันที แล้วออร์ตันกับครอบครัวแม็กแมนก็ชูมือฉลองกัน ในรอว์ (26 สิงหาคม 2013) ไบรอันออกมาบอกว่า ทริปเปิล เอชก็เป็นแค่คนที่ทรยศต่ออุดมการณ์ของตัวเอง สมัยก่อนทำตัวเป็นนักปฏิวัติใส่เสื้อแจ๊คเก็ตหนัง แต่ตอนนี้ใส่สูททำงานให้บริษัทซะแล้ว ส่วนออร์ตันก็จะต้องถูกศัลยกรรมหน้าใหม่หลังจากที่เขาจัดการแย่งแชมป์คืนในศึก ไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2013) คืนเดียวกัน ไบรอันได้เจอกับเดอะชีลด์ สุดท้ายไบรอันก็ชนะฟาล์ว หลังแมตช์ เดอะชีลด์รุมเล่นงานไบรอัน แล้วก็จัดการ Triple Powerbomb ใส่ไบรอัน ออร์ตันออกมาและก็จัดการ RKO ใส่ไบรอัน ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ ไบรอันสามารถคว้าแชมป์ WWE เป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ ในรอว์คืนต่อมา (16 กันยายน 2013) ไบรอันออกมาท่ามกลางเสียงเชียร์ พร้อมกับเข็มขัดแชมป์ WWE เขาบอกว่าเขามีหลายอย่างที่อยากจะพูด แต่ขอพูดคำที่สื่อความหมายได้ดีที่สุดคำเดียวคือ ใช่!! แต่ ทริปเปิล เอช ออกมาขัดจังหวะ และบอกว่า สก็อตต์ อาร์มสตรอง ที่ตัดสินแมตช์ชิงแชมป์นับ 1 2 3 เร็วเกิน และทริปเปิล เอชได้สั่งยึดแชมป์คืน ไบรอันไม่ยอมคืน แรนดี ออร์ตันออกมา และไบรอันกับออร์ตันก็ทำท่าจะต่อยกัน แต่ทริปเปิล เอชสั่งห้ามไว้ และก็บอกให้ส่งคืนเข็มขัดแชมป์มาได้แล้ว ไบรอันไม่ยอมคืน เลยโดน RKO เข้าไป แล้วทริปเปิล เอชก็เอาเข็มขัดไปจนได้ ในศึก แบทเทิลกราวด์ ไบรอันได้เจอกับออร์ตัน เพื่อชิงแชมป์ WWE ที่ว่างอยู่ สุดท้ายแมตช์จบลงโดยไม่มีผลการตัดสิน เพราะ บิ๊กโชว์ออกมาก่อกวนการปล้ำ ในศึก เฮลอินเอเซล (2013) ไบรอันได้เจอกับออร์ตัน ในแมตช์การปล้ำเฮลอินเอเซล เพื่อชิงแชมป์ WWE ที่ว่างอยู่ โดยมี ชอว์น ไมเคิลส์ เป็นกรรมการพิเศษ สุดท้ายไบรอันก็เป็นฝ่ายแพ้ไป จากการถูก Sweet Chin Music โดยชอว์น เพราะไปเล่นงานทริปเปิล เอช เพื่อนรักของชอว์น

ในรอว์ (28 ตุลาคม 2013) ชอว์นออกมาเพื่ออธิบายสิ่งที่เขาทำลงไป และก็เรียกไบรอันออกมา ชอว์นบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มันจบลงแบบนั้น ทริปเปิล เอช คือเพื่อนที่เขารักที่สุดและมันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เขาจะไม่ขอให้ไบรอันหรือใครๆ มาเข้าใจเขาแต่อยากจะขอให้ไบรอันยอมรับคำขอโทษและจับมือกับเขา ไบรอันไม่ยอมจับมือด้วย ชอว์นเลยสั่งสอนบทเรียนสุดท้ายในฐานะอาจารย์ว่าในวงการนี้ห้ามเชื่อใจใครเด็ดขาดรวมทั้งตัวเขาเองด้วย เขาคือ ชอว์น ไมเคิลส์ สตาร์ระดับ A+ และจะให้เกียรตินายได้จับมือกัน ดังนั้นจงจับมือซะดีๆ ไบรอันยอมจับมือ จากนั้นก็ลากชอว์นไปใส่ Yes Lock ก่อนที่กรรมการจะวิ่งออกมาช่วยห้าม ไบรอันให้สัมภาษณ์ที่หลังฉาก แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็โดน เดอะไวแอ็ตต์แฟมิลี เข้ามารุมกระทืบจนน่วม ในศึก เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2013) ไบรอันได้จับคู่กับ ซีเอ็ม พังก์ เจอกับ ลุก ฮาร์เปอร์ และ อีริก โรแวน 2 สมาชิกกลุ่มเดอะไวแอ็ตต์แฟมิลี สุดท้ายไบรอันกับพังก์ก็เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้สำเร็จ ในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2013) ไบรอันต้องปล้ำแมตช์แฮนดิแคป 3 ต่อ 1 กับ เดอะไวแอ็ตต์แฟมิลี (เบรย์ ไวแอ็ตต์, ลุก ฮาร์เปอร์ และ อีริก โรแวน) สุดท้ายไบรอันเป็นฝ่ายแพ้ไป ในรอว์ (30 ธันวาคม 2013) ไบรอันได้มาคุยกับ ทริปเปิล เอช กับ สเตฟานี เพื่อขอเจอกับ เบรย์ ไวแอ็ตต์ ตัวต่อตัว แต่จะต้องเจอกับ ลุก ฮาร์เปอร์ ก่อน ถ้าชนะก็ให้เจอกับ อีริก โรแวน อีกคน ถ้าชนะได้หมดก็จะให้เจอกับ ไวแอ็ตต์ สุดท้ายไบรอันก็เอาชนะได้ทั้ง ฮาร์เปอร์ และโรแวน และได้เจอกับเบรย์ ตัวต่อตัว แต่ยังไม่ทันได้ปล้ำ ฮาร์เปอร์ และโรแวน ก็ขึ้นมากระทืบไบรอัน จนกรรมการต้องยุติแมตช์ไป หลังแมตช์ ไบรอันได้ขอเข้าร่วมกลุ่มไวแอ็ตต์แฟมิลี ก่อนจะนั่งคุกเข่าและกางแขนให้เบรย์เป็นสัญลักษณ์ว่ายินยอมสละตัว มอบตัวให้กับเบรย์ เบรย์เลยจับไบรอันใส่ Sister Abigail แล้วสั่งให้ ฮาร์เปอร์ และโรแวน เอาตัวไบรอันลงจากเวทีไปด้วย สุดท้ายไบรอันก็กลับเข้าไปหลังเวทีพร้อมกับไวแอ็ตต์แฟมิลี ในรอว์ (13 มกราคม 2014) ไบรอันได้จับคู่กับ เบรย์ ไวแอ็ตต์ เจอกับ ดิ อูโซส์ (เจย์ และ จิมมี อูโซ) ผลปรากฏว่าทีม อูโซส์ ชนะฟาล์ว เพราะฮาร์เปอร์ และโรแวน ขึ้นมาก่อกวนการปล้ำ คืนเดียวทั้งสองทีมได้รีแมตช์กันอีกครั้งในกรงเหล็ก สุดท้ายอูโซส์ เอาชนะไปได้ หลังแมตช์ เบรย์ด่าไบรอันและจะลงโทษอีกครั้ง แต่คราวนี้ไบรอันดิ้นหลุดออกจากท่า Sister Abigail แล้วกระโดดถีบเบรย์หลายดอก ต่อด้วยท่าเตะต่อเนื่องจนเบรย์หมดสภาพ ฮาร์เปอร์ และโรแวน พยายามปีนกรงเข้ามา แต่ไบรอันก็เหวี่ยงเบรย์ไปอัดใส่จนไม่สามารถปีนเข้ามาได้ แล้วก็ปิดท้ายด้วยท่าเข่าลอยใส่เบรย์ จากนั้นก็ปีนกรงขึ้นไปฉลองด้วยท่า Yes! Yes! Yes! ในศึก รอยัลรัมเบิล (2014) ไบรอัน ได้เจอกับ เบรย์ ไวแอ็ตต์ แต่สุดท้ายไบรอันก็เป็นฝ่ายแพ้ไป

ในรอว์ (27 มกราคม 2014) ไบรอันได้จับคู่กับ จอห์น ซีนา และเชมัส เจอกับ เดอะชีลด์ โดยทีมที่ชนะได้สิทธิ์เข้าร่วมแมตช์ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ เพื่อชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2014) สุดท้ายแมตช์จบลงโดยไม่มีผลการตัดสิน เพราะไวแอ็ตต์แฟมิลีมาก่อกวนการปล้ำ หลังแมตช์ทีมไบรอันช่วยกันไล่อัดพวกไวแอ็ตต์ จนต้องหนีไป แล้วโฆษกก็ประกาศว่าทีมของไบรอัน เป็นฝ่ายชนะฟาวล์ ได้สิทธิ์เข้าร่วมแมตช์ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ไบรอันก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ จากการลอบทำร้ายของเคน ในรอว์ (10 มีนาคม 2014) ไบรอันได้ออกมาท้า ทริปเปิล เอช เพื่อเจอกันในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 30 โดยมีข้อเสนอว่าถ้าเขาชนะ เขาจะได้ร่วมแมตช์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE ต่อในคืนนั้น และ ทริปเปิล เอช ก็ตอบรับคำท้าของไบรอัน ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 30 ไบรอันได้เอาชนะ ทริปเปิล เอช และได้เข้าร่วมแมตช์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE 3 เส้ากับ แรนดี ออร์ตัน และ บาทิสตา ต่อในคืนเดียวกัน หลังแมตช์ ทริปเปิล เอช ได้มาลอบทำร้ายไบรอัน จนได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย ในแมตช์คู่เอก 3 เส้า ไบรอันก็สามารถเอาชนะออร์ตัน และบาทิสตา และคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE มาได้สำเร็จ ในรอว์ (22 เมษายน 2014) ไบรอัน เจ้าของแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE คนใหม่ ออกมาฉลอง หลังแต่งงานกับ บรี เบลลา และ สเตฟานี แม็กแมน ออกมายินดี และประกาศว่าไบรอันจะต้องป้องกันแชมป์กับ เคน ในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2014) ก่อนที่ เคน (กลับมาสวมหน้ากากอีกครั้ง) ออกมาลอบทำร้ายไบรอันไม่หยุด จนไบรอันจะถูกหามออกจากสนาม ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ ไบรอันต้องป้องกันแชมป์กับ เคน ในแมตช์การปล้ำ เอ็กซ์ตรีมรูลส์ สุดท้ายไบรอันก็เป็นฝ่ายเอาชนะเคน และป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ

ในรอว์ (12 พฤษภาคม 2014) ไบรอันได้ออกมาประกาศเรื่องสำคัญให้แฟนๆ ทราบ และก็พูดถึงการต่อสู้ของเขาที่ต้องสู้มาตลอดตั้งแต่ตอนที่ แรนดี ออร์ตัน ใช้กระเป๋ามันนีย์อินเดอะแบงก์กับเขา เขาสู้และเขาก็ทำได้สำเร็จ เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE แต่จากสไตล์การปล้ำของเขานั้นเขาก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด เขาจะต้องเข้ารับการผ่าตัดคอ มันอาจจะทำให้เขาไม่สามารถกลับมาปล้ำได้อีกตลอดชีวิต แต่เขาจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นและเขาจะกลับมาอย่างแน่นอน คืนเดียวกัน สเตฟานีออกมาพูดถึงการผ่าตัดของไบรอัน เธอบอกอีกว่า ไบรอันไม่ใช่สตาร์ระดับ A แม้ว่าหัวใจจะแข็งแกร่งแต่ร่างกายกลับทนไม่ไหว และได้ขอให้ไบรอันออกมาพูดเรื่องสำคัญต่อหน้า แต่คนที่ออกมาคือ เคน ซึ่งลากเอาไบรอัน ในสภาพฟกช้ำออกมากองไว้ แล้วก็เดินจากไป ทีมแพทย์ต้องช่วยกันหามไบรอัน ลงเปลส่งโรงพยาบาล วันที่ 15 พฤษภาคม 2014 ไบรอันได้เข้ารับการผ่าตัดที่คอ และโพสข้อความลงในทวิตเตอร์ หลังเข้ารับการผ่าตัด: "ขอบคุณทุกๆคนที่ขอให้ผมปลอดภัยระหว่างเข้ารับการผ่าตัด พวกคุณมอบพลังให้กับผมและพวกคุณคือแรงจูงใจของผมเพื่อกลับไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

ในรอว์ (26 พฤษภาคม 2014) สเตฟานีออกมาที่เวทีและเรียกไบรอัน ให้ออกมาประกาศสละแชมป์ ไบรอันบอกว่า สเตฟานีเอาประชาชนมาอ้าง ความจริงแล้วก็แค่อยากจะปลดเขาออกไปเพื่อจะได้ตั้งแชมป์คนกลางตามใจชอบใช่ไหมล่ะ คงจะวางแผนมาตั้งแต่ที่เขาได้แชมป์มาในเรสเซิลเมเนีย โดยเอาชนะสามีของเธอมาได้แล้วสิ เคยคิดบ้างไหมว่าทำไมคนดูถึงตะโกน Yes! ทุกครั้งที่พวกเขาไม่ได้รับสิ่งที่พวกเขาต้องการ? ส่วนคำตอบในเรื่องที่ว่าจะให้เขาสละแชมป์น่ะเหรอ? ขอตอบด้วยคำๆ หนึ่งที่เธอไม่ค่อยจะได้ยินนะ นั่นคือ No! No! No! สเตฟานีได้ประกาศว่าจะให้โอกาสไบรอันสละแชมป์ในศึก เพย์แบ็ค (2014) ไม่อย่างนั้น บรีจะต้องโดนไล่ออก!! ในเพย์แบ็ค ไบรอัน ออกมาพร้อมกับ บรี และสเตฟานี ก็บอกให้ไบรอัน ทำในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าเห็นแก่ตัว เผื่อลูกของนายในอนาคตจะได้ดูเขาจะได้รู้ว่าพ่อไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว ไบรอัน บอกว่าลูกของสเตฟานี คงจะดูอยู่นะ จะได้เห็นว่าแม่ของเขาเป็นคนหลงตัวเอง เอาตัวเองเป็นใหญ่ ไบรอันจะส่งเข็มขัดแชมป์ให้สเตฟานี แต่บรี ห้ามไว้ ก่อนจะประกาศว่า ขอลาออก!! แล้วก็ตบหน้าสเตฟานี ทำให้สเตฟานีต้องรีบหนีไป ในรอว์ (9 มิถุนายน 2014) สเตฟานีบอกว่าเรามีปัญหาเรื่องแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE มานานแล้ว แต่วันนี้มันจะจบลงแล้ว เพราะเราได้รับการคอนเฟิร์มจากแพทย์ที่ทำการผ่าตัดให้กับไบรอัน จากนั้นสเตฟานี ก็เปิดวิดีโอการแถลงของ ดร. โจเซฟ แมรูนส์ ผู้ทำการผ่าตัดให้กับไบรอัน ซึ่งคุณหมอก็บอกว่า ไบรอันจะไม่สามารถกลับไปทำงานได้ภายในเดือนนี้อย่างแน่นอน สเตฟานีจึงประกาศปลดแชมป์จากไบรอันทันที ก่อนจะประกาศว่าแมตช์ไต่บันไดในศึก มันนีย์อินเดอะแบงก์ (2014) จะเป็นแมตช์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE ที่ว่างอยู่ เนื่องจากอาการบาดเจ็บของไบรอัน ทำให้ต้องห่างหายจากจอโทรทัศน์ของ WWE ไปพักใหญ่ ในรอว์ (24 พฤศจิกายน 2014) ไบรอันได้กลับมาอีกครั้ง โดยเขาได้รับมอบหมายให้ดำเนินรายการรอว์ รวมทั้งสแมคดาวน์ (28 พฤศจิกายน 2014) แทนออธอริตีที่หมดอำนาจ

ในรอว์ส่งท้ายปี (29 ธันวาคม 2014) ไบรอันได้ปรากฏตัวอีกครั้ง โดยประกาศว่าเขาพร้อมแล้วที่จะกลับมา เขาพร้อมจะสู้แล้ว และประกาศจะเข้าร่วมแมตช์ รอยัลรัมเบิล (2015) ในรอว์ (12 มกราคม 2015) ไบรอันออกมาที่เวทีเพื่อรำลึกความหลังที่เขาได้แชมป์ที่เมืองนี้ในเรสเซิลเมเนีย 30 และเขาอยากจะทำมันให้ได้อีกครั้ง สเตฟานีออกมาที่เวทีแล้วก็เตือนให้ไบรอันจำเอาไว้ให้ดีว่าเคยโดนอะไรมาบ้าง (ตอนที่เคน ใช้ท่า Tombstone ใส่เขาหลายครั้งจนทำให้บาดเจ็บที่คอ) สเตฟานีถามว่า ไบรอันฟิตพอแล้วจริงๆ หรือ? หายไปตั้ง 8 เดือนเพราะบาดเจ็บจนเกือบจะกลับมาไม่ได้ ไบรอันตอบว่า Yes! เขาไม่ได้เกิดมาโดยคาบช้อนเงินช้อนทอง เขาต้องต่อสู้เพื่อทุกๆ โอกาสที่เขาจะหาได้ ไม่ว่าดิออธอริตีจะทำอะไรเขาก็จะไม่ยอมหยุดสู้ และคนดูทุกคนก็จะไม่หยุดต่อสู้เช่นกัน สเตฟานี เรียกเคน ออกมา และก็จะ Tombstone อีกครั้งเพื่อให้ไบรอันพิการ แต่ไบรอัน ดิ้นหลุดมาอัดเคน ทำให้กรรมการต้องมาช่วยกันจับแยก ในสแมคดาวน์ คืนวันพฤหัส (15 มกราคม 2015) ไบรอันได้กลับมาขึ้นปล้ำครั้งแรกในรอบ 8 เดือน โดยเจอกับ เคน ผลปรากฏว่า ไบรอัน ชนะฟาล์ว คืนเดียวกัน ไบรอันได้ปล้ำแทคทีม 6 คน จับคู่กับ ดีน แอมโบรส และโรแมน เรนส์ เอาชนะ เคน, บิ๊กโชว์ และเซท โรลลินส์ไปได้ หลังแมตช์ ทริปเปิล เอช ออกมาประกาศให้ไบรอัน รีแมตช์กับเคนอีกครั้ง ในสัปดาห์ถัดไป ถ้าไบรอันแพ้ จะหมดสิทธิ์ในการเข้าร่วมรอยัลรัมเบิล ในสแมคดาวน์ (22 มกราคม 2015) ไบรอันเอาชนะเคนไปได้ในแมตช์ไม่มีกฏกติกา ทำให้ไบรอันรักษาสิทธิ์ในการเข้าร่วมรอยัลรัมเบิลเอาไว้ได้ ในรอยัลรัมเบิล ไบรอันได้เข้าร่วมแมตช์เป็นคนที่ 10 แต่ไม่ได้เป็นผู้ชนะ ในสแมคดาวน์ (29 มกราคม 2015) ไบรอันเอาชนะเคนไปได้ในแมตช์จับยัดใส่โลงศพ และเป็นการสิ้นสุดเรื่องราวของทั้งคู่ ในรอว์ (2 กุมภาพันธ์ 2015) ไบรอัน ได้เอาชนะ เซท โรลลินส์ และได้ไปเจอกับ โรแมน เรนส์ ในศึก ฟาสต์เลน (2015) เพื่อหาผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE กับเจ้าของตำแหน่ง บร็อก เลสเนอร์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31 สุดท้ายเรนส์ เป็นฝ่ายชนะป้องกันสิทธิ์ผู้ท้าชิงอันดับ 1 เอาไว้ได้

ในสแมคดาวน์ (26 กุมภาพันธ์ 2015) ไบรอันออกมาขอบคุณแฟนๆ ที่อยู่ข้างเขามาตลอด แต่ปีนี้เขาได้รับโอกาสแล้วหลายครั้งซึ่งก็ทำไม่สำเร็จ ทำให้เขาจะไม่ได้ชิงแชมป์ในเรสเซิลเมเนีย แต่เขายังไม่ยอมแพ้ แบด นิวส์ บาร์เร็ตต์ ออกมาโวยวาย และหงุดหงิดที่โดนขโมยเข็มขัดแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล และไล่ให้ไบรอัน ลงไปจากเวที ดีน แอมโบรส ออกมาพร้อมกับเข็มขัดแชมป์อินเตอร์ และก็ต่อยกับบาร์เร็ตต์ แต่สุดท้าย บาร์เร็ตต์กลับขึ้นเวทีไปได้และก็ไปขอให้ไบรอัน เอาเข็มขัดคืนให้เขา ไบรอันคืนให้ แต่พอบาร์เร็ตต์ หันหลังกลับก็เจอแอมโบรส ต่อยทันที และไบรอัน ก็เตะก้านคอซ้ำอีกที ในสแมคดาวน์ (12 มีนาคม 2015) ไบรอันได้ประกาศจะเข้าร่วมแมตช์ไต่บันไดชิงแชมป์อินเตอร์ ในเรสเซิลเมเนีย และไบรอันก็ได้คว้าแชมป์อินเตอร์ เป็นสมัยแรก ทำให้เขาเป็น แชมป์ทริปเปิลคราวน์ คนที่ 26 และแชมป์แกรนด์สแลม คนที่ 15 ของ WWE หลังจากเป็นแชมป์ได้ไม่นาน ไบรอันก็ได้รับบาดเจ็บจากการปล้ำเฮาส์โชว์ที่ดับลิน, ไอร์แลนด์ ในวันที่ 9 เมษายน 2015 โดยก่อนหน้านี้ก็ได้รับบาดเจ็บในสแมคดาวน์ (2 เมษายน 2015) ที่เจอกับ เชมัส มาก่อนแล้วก่อนจะอาการหนักขึ้นในเฮาส์โชว์ WWE จำเป็นต้องส่งไบรอัน กลับอเมริกาในอีก 2-3 วันให้หลัง และอาจต้องพักราวๆ 5 สัปดาห์ด้วยกัน ทำให้เขาต้องพลาดศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ ที่จะต้องป้องกันแชมป์อินเตอร์กับ แบด นิวส์ บาร์เร็ตต์ ในสัปดาห์ต่อมา WWE ได้ถอดชื่อไบรอัน ออกจากตารางการปล้ำทั้งหมดแล้ว โดยถอดชื่อออกจากโปรแกรมล่วงหน้าไปหลายเดือน ในรอว์ (11 พฤษภาคม 2015) ไบรอันได้ประกาศสละเข็มขัดแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล เพื่อพักรักษาอาการบาดเจ็บ และขอบคุณแฟนๆ ที่สนับสนุนเขามาตลอด และบอกว่าเขาอาจจะต้องพักยาวเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน เป็นปี หรือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะกลับมาปล้ำได้อีกหรือไม่ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2016 ไบรอันได้ประกาศรีไทร์เลิกปล้ำบนทวิตเตอร์ เนื่องจากเหตุผลทางการแพทย์ ซึ่งนั่นก็คือมีอาการกระทบกระเทือนทางสมองหลายครั้งตลอดระยะเวลา 16 ปีในอาชีพนักมวยปล้ำของเขา

แดเนียลได้ให้ความสำคัญอย่างชัดเจนใน Wrestling Road Diaries สารคดีซึ่งถ่ายทำในปี 2009 ก่อนที่เขาจะเซ็นสัญญากับ WWE แดเนียลเป็นแฟนของเพลงร็อคอินดี้และบันทึกเดียวกับ คิมยา ดอว์สัน ที่เป็นยกย่องให้ตำนานมวยปล้ำ "กัปตัน" ลู อัลบาโน

ความสัมพันธ์ของแดเนียลกับภรรยาของเขา บรี เบลลา เป็นจุดเด่นประจำในเรียลลิตี้ของ WWE โทเทิลดีวาส์ ทางช่อง E! Network

แดเนียลส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษมีบางสก็อตไอริชและภาษาดัตช์วงศ์ตระกูล แดเนียลได้อ้างตัวเลขของนักมวยปล้ำที่มีอิทธิพลกับสไตล์ของเขา Toshiaki Kawada, Mitsuharu Misawa และวิลเลียม รีกัล เขาได้ทำยังเอ่ยถึงการสร้างแบบจำลองการต่อสู้ของเขาออกจากการทำงานของ ดีน มาเลนโก และคริส เบนวา ครั้งแรกในอาชีพแล้วใช้ฉีดเป็นแพลตฟอร์มที่จะพัฒนารูปแบบของตัวเอง ในปี 2009 แดเนียลย้ายไปอยู่ที่ลาสเวกัสที่เขาได้เริ่มการฝึกอบรมในศิลปะการต่อสู้ผสมที่โรงยิม Xtreme Couture ของ แรนดี เคาเตอร์ นอกจากนี้เขายังเป็นเพื่อนร่วมห้องกับ นีล มีแลนสัน ในการฝึกการต่อสู้ที่ Xtreme Couture

ในช่วงเวลาที่เขาเป็นแชมป์โลก ROH แดเนียลได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝึกงานจากสถาบันการศึกษามวยปล้ำ ROH แทน ออสติน แอรีย์ ก่อนจะถูกถอดออกจากตำแหน่งในปี 2007

แดเนียลกลายเป็นมังสวิรัติในปี 2009 หลังจากที่ได้รับการยกระดับเอนไซม์ในตับและการติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ในปี 2012 แดเนียลได้รับรางวัล Libby สำหรับการเป็น "นักกีฬาที่เป็นมิตรกับเนื้อสัตว์มากที่สุด" ในเกียรติของแดเนียลสัน นายกเทศมนตรี Micah Cawley ของ ยากิมา, วอชิงตัน ประกาศว่า 13 มกราคม เป็นวัน "แดเนียล ไบรอัน เดย์" ในเดือนกันยายน 2012 แดเนียลเปิดเผยว่าเขาไม่ได้เป็นมังสวิรัติ เพราะเขาไม่สามารถที่จะหาอาหารมังสวิรัติในระหว่างการเดินทางบนท้องถนนกับ WWE หลังจากนั้นเขาก็อธิบายว่าเขาได้มีอาการแพ้ถั่วเหลืองและไม่สามารถหาอาหารมังสวิรัติพอแม้ไม่ใช่ทำจากถั่วเหลืองก็ตาม แต่เขาก็ยังช่วยในการรับประทานอาหารมังสวิรัติส่วนใหญ่บนท้องถนน เขายังได้อ้างว่าจะประสบกับโรคด่างขาว

แดเนียลบอกว่าตัวเองในการจัดอันดับในด้านล่าง 1 เปอร์เซ็นต์สำหรับความทะเยอทะยานในการทดสอบบุคลิกภาพ WWE ให้เขา ในการตอบสนองเขากล่าวว่า "ผมมีความทะเยอทะยานไม่มีสิ่งที่สังคมบอกว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเท่าที่สิ่งที่ต้องการเงินและทุกชนิดของสิ่งที่. สิ่งที่ฉันมีความทะเยอทะยานเกี่ยวกับการเป็นที่ฉันต้องการที่จะเป็นนักมวยปล้ำที่ดีที่สุดที่ฉันอาจจะได้เป็น"

ในเดือนตุลาคม 2012, แคมเปญสื่อสังคมเริ่มต้นในความพยายามที่จะช่วยตอบสนองความคอนเนอร์ Michalek พระเอกส่วนตัวของเขา, แดเนียลไบรอัน Michalek อายุหกในเวลาและความทุกข์ทรมานจาก medulloblastoma มะเร็งของสมองและกระดูกสันหลัง แคมเปญที่ประสบความสำเร็จกับแดเนียลประชุม Michalek แฟนของเขาที่รวมศูนย์พลังงานในเดือนธันวาคม 2012 และอีกครั้งในเดือนตุลาคมปี 2013 Michalek เป็นแรงบันดาลใจให้กับแดเนียลเพราะ "วิธีที่เขาเดินเข้ามาในชีวิตและความสุขที่เขาได้" ในขณะที่ไม่เคยบ่น Michalek, ที่สมดุลที่ เรสเซิลเมเนีย XXX เป็นคนแรกที่แดเนียลกอดหลังจากที่เขาได้รับรางวัล

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2014 แดเนียลได้แต่งงานกับดีวาส์ WWE บรี เบลลา หลังจากที่มีความสัมพันธ์กันมาเกือบสามปี

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2014 พ่อของแดเนียลได้เสียชีวิต แต่แดเนียลยืนยันที่จะร่วมโชว์ในรอว์คืนนั้นตามที่กำหนด

แดเนียลพูดถึงชัยชนะใน เรสเซิลเมเนีย XXX และแต่งงานของเขาไม่นานหลังจากที่จุดที่สูงที่สุดเท่าที่ในชีวิตอาชีพและส่วนบุคคลของเขา แต่ภายในสองเดือนแล้วเขาก็มีประสบการณ์จุดต่ำส่วนบุคคล - การตายของพ่อของเขาและคอนเนอร์ มิคาเลก - ตามด้วยจุดต่ำมืออาชีพ - การผ่าตัด

ในกรกฎาคม 2014 ที่บ้านของแดเนียล ในเมือง ฟีนิกซ์ (รัฐแอริโซนา) ได้ถูกสองโจรงัดบ้าน เพื่อขโมยของ แต่โดนไบรอันไล่กวดและจับกุมตัวเอาไว้ได้ ไบรอัน กับภรรยา บรี เบลลา เพิ่งจะกลับมาถึงบ้านในตอนกลางคืนก่อนจะพบว่ามีหัวขโมยสองคนวิ่งหนีออกจากบ้านของพวกเขาและปีนรั้วหนีไป ทำให้ไบรอัน ตัดสินใจวิ่งไล่ตามไปและก็สามารถจับขโมยเอาไว้ได้หนึ่งคน ไบรอัน กับบรี เพิ่งจะกลับจากงานกิจกรรมของ WWE ที่ไปจัดที่งาน San Diego Comic Con และการไปตรวจอาการบาดเจ็บของ Bryan กับ Dr. Chris Amann แพทย์ประจำ WWE ด้วย

ในระหว่างการสัมภาษณ์ 2014 แดเนียลบอกว่าเขาไม่สามารถว่ายน้ำหรือไปลึกลงไปในน้ำเนื่องจากแก้วหูฉีกขาดจากการปล้ำเมื่อปี 2007 ในสมาคม ริงออฟออเนอร์ ในแมตช์ที่เจอกับ เคนตะ และเขาอ้างว่าเขายังมีปัญหาการได้ยินในหูซ้ายของเขา

เขาเป็นผู้สนับสนุนของทีมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เอฟเวอร์ตันเอฟซี เขายังเป็นแฟนตัวยงของ Seattle Seahawks และ the San Francisco Giants


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301